เยอรมนีและฝรั่งเศส เสาหลักของยุโรปที่กำลังสั่นคลอน

เยอรมนีและฝรั่งเศส เสาหลักของยุโรปที่กำลังสั่นคลอน

เยอรมนีและฝรั่งเศส ซึ่งเคยเป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจและการเงินของสหภาพยุโรป กำลังเผชิญแรงกดดันรอบด้าน ทั้งจากหนี้สาธารณะที่พุ่งสูง การชะลอตัวของอุตสาหกรรมหลัก ค่าเงินยูโรที่อ่อนตัว รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองที่กระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในวงกว้าง

ฝรั่งเศสมีระดับหนี้แตะ 112% ต่อ GDP สูงเกินค่าเฉลี่ยยูโรโซน ขณะที่เยอรมนีอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยติดต่อกันหลายไตรมาส ทั้งสองประเทศยังต้องเผชิญกับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งทำให้ราคาพลังงานพุ่งสูง กระทบต่อภาคอุตสาหกรรมและต้นทุนการผลิต

เศรษฐกิจชะลอตัวซ้ำเติมอุตสาหกรรมและตลาดทุนขาดแรงหนุน

พนักงานฟอร์ดที่โรงงานในเมืองโคโลญจน์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ก่อนการเยือนของนายกรัฐมนตรีเยอรมัน 

ถ่ายภาพโดย: Sascha Schuermann/AFP/Getty Images

ในฝั่งอุตสาหกรรม เยอรมนีเผชิญวิกฤติในภาคยานยนต์ จากการแข่งขันของรถยนต์ไฟฟ้าจีนที่ตีตลาดด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า ส่วนฝรั่งเศสมีความตึงเครียดทางสังคมจากการประท้วงต่อต้านนโยบายปฏิรูปเงินบำนาญ ซึ่งยืดเยื้อมาเป็นปี และกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาดตราสารทุนอย่างชัดเจน

ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตาว่า หากสองประเทศนี้ไม่สามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจและควบคุมหนี้สาธารณะได้ อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่กระทบต่อค่าเงินยูโร เสถียรภาพของระบบการเงินยุโรป และแนวโน้มการลงทุนทั่วโลก

หุ้นยุโรปเผชิญแรงขาย นักลงทุนหันมองทองคำและค่าเงิน

สถานการณ์นี้สะท้อนผ่านตลาดหุ้นยุโรปที่ยังเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง ดัชนีหลักอย่าง DAX ของเยอรมนีและ CAC 40 ของฝรั่งเศสอยู่ภายใต้แรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ขณะที่นักลงทุนสถาบันเริ่มปรับพอร์ตออกจากหุ้นวัฏจักร (Cyclical stocks) ไปยังสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น เช่น ทองคำและตราสารหนี้

ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 โดยบางช่วงแตะระดับเหนือ 3,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามข้อมูลจาก goldprice.org การปรับขึ้นของราคาทองคำนี้สะท้อนแรงซื้อจากนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทั่วโลก ซึ่งรวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอในยุโรป ความผันผวนของค่าเงินยูโร และความกังวลต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศเศรษฐกิจหลักในยูโรโซน ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจึงกลับมาได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นผ่านการลงทุนใน ETF เช่น $GLD หรือการเทรดผ่าน CFD

ด้านตลาด Forex ความผันผวนของค่าเงินยูโร (EUR) และเงินปอนด์ (GBP) สร้างโอกาสให้กับนักเทรดระยะสั้น โดยเฉพาะคู่เงิน EUR/USD และ EUR/JPY ที่ปรับตัวตามถ้อยแถลงของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งยังคงใช้นโยบายการเงินตึงตัว เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่ยังเกาะตัวสูง

หากคุณกำลังมองหาโอกาสในการลงทุนหรือเทรดในภาวะตลาดที่ผันผวนแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นทองคำ ค่าเงิน หรือดัชนียุโรป ลองเริ่มต้นกับแพลตฟอร์ม IUX ที่ให้คุณเข้าถึงทั้ง CFD, Forex, ดัชนี และ ETF ได้ในที่เดียว

เปิดบัญชีทดลองฟรี หรือเริ่มต้นเทรดจริงกับ IUX วันนี้

อุตสาหกรรมหลักของเยอรมนี–ฝรั่งเศสชะลอตัว กระทบตลาดหุ้นและความเชื่อมั่นนักลงทุน

สหภาพแรงงานทรงอิทธิพลของเยอรมนีได้นำพนักงานประท้วงหยุดงาน หลังแผนการลดต้นทุนของโฟล์คสวาเกนส่งผลกระทบต่อการจ้างงานนับพันตำแหน่งและอาจนำไปสู่การปิดโรงงานหลายแห่ง ภาพโดย JENS SCHLUETER/AFP via Getty Images

หนึ่งในปัจจัยหลักที่กดดันเศรษฐกิจเยอรมนีและฝรั่งเศสในปี 2025 คือการชะลอตัวของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ของเยอรมนีที่กำลังเผชิญการแข่งขันรุนแรงจากรถยนต์ไฟฟ้าจีน ซึ่งมีต้นทุนต่ำและเทคโนโลยีล้ำสมัยกว่า การที่ Volkswagen เตรียมปิดโรงงานและปลดพนักงานกว่า 10,000 คนภายในปีนี้ สะท้อนแรงกดดันที่ลึกถึงห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด

นอกจากนี้ ราคาพลังงานที่พุ่งสูงจากวิกฤติยูเครน–รัสเซีย ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นกว่า 30% ในหลายอุตสาหกรรม ผู้ผลิตในยุโรปจึงสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน และเริ่มชะลอหรือหยุดสายการผลิต

สถานการณ์เหล่านี้ส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปยังคงเผชิญแรงขายต่อเนื่อง หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและพลังงานใน DAX และ CAC 40 อ่อนตัวลง นักลงทุนจึงเริ่มโยกเงินออกจากหุ้นวัฏจักร ไปสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ และเน้นเทรด Forex กับคู่เงิน EUR/USD และ EUR/JPY ซึ่งมีความผันผวนตามข่าวเศรษฐกิจและการประชุม ECB

Tip: ติดตามถ้อยแถลงจาก ECB เพราะส่งผลแรงต่อ EUR/USD เน้นเทรดตามแนวโน้ม และอย่าลืมตั้ง Stop Loss ทุกครั้ง

ความไม่แน่นอนทางการเมือง ซ้ำเติมเศรษฐกิจเยอรมนี–ฝรั่งเศส และบรรยากาศลงทุน

ภาพโดย EMMANUEL DUNAND/AFP via Getty Images

นอกจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากต้นทุนพลังงานและการถดถอยของอุตสาหกรรมหลัก เยอรมนีและฝรั่งเศสยังเผชิญแรงกดดันจากความไม่เสถียรทางการเมือง ซึ่งยิ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน

ในฝรั่งเศส การประท้วงต่อต้านการปฏิรูปเงินบำนาญของประธานาธิบดีมาครงที่เพิ่มอายุเกษียณเป็น 64 ปี ยังคงยืดเยื้อและส่งผลกระทบวงกว้างต่อเศรษฐกิจ ทั้งการหยุดชะงักของระบบขนส่ง การปิดกิจการชั่วคราว และการชะลอการลงทุนจากต่างชาติ ส่งผลให้ดัชนี CAC 40 เคลื่อนไหวผันผวนและเริ่มถูกปรับน้ำหนักออกจากพอร์ตนักลงทุนสถาบันบางราย

ในฝั่งเยอรมนี รัฐบาลยังถูกวิจารณ์ว่าตอบสนองต่อปัญหาพลังงานและการแข่งขันจากจีนได้ล่าช้า ทำให้ดัชนี DAX ได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและพลังงานที่อ่อนตัวลงต่อเนื่อง นักลงทุนบางส่วนหันไปถือทองคำและตราสารหนี้ระยะสั้นเพื่อป้องกันความเสี่ยง ขณะที่การเทรด Forex กับคู่ EUR/USD กลายเป็นทางเลือกในการเก็งกำไรช่วงข่าวการเมืองหรือการประชุม ECB ที่ส่งผลต่อค่าเงินยูโร

เยอรมนี–ฝรั่งเศสชะลอตัว เสี่ยงลามเศรษฐกิจโลก นักลงทุนควรจับตาใกล้ชิด

หากสองประเทศเศรษฐกิจหลักของยุโรปไม่สามารถจัดการวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองภายในได้ทันเวลา ผลกระทบอาจกระจายสู่ระดับโลกและกระทบทั้งตลาดหุ้น ค่าเงิน และการค้า

• เงินยูโรเผชิญแรงขาย
  ค่าเงินยูโรอาจอ่อนค่าต่อเนื่อง หากความไม่แน่นอนยังคงอยู่ ส่งผลให้คู่เงิน EUR/USD มีความผันผวนสูง เหมาะสำหรับนักเทรดที่ใช้กลยุทธ์ตามข่าวหรือเทคนิคอลระยะสั้น

• หุ้นยุโรปถูกเทขาย หุ้นป้องกันความเสี่ยงโดดเด่น
  ความเชื่อมั่นที่ลดลงอาจกระตุ้นให้เงินทุนไหลออกจากยุโรป และเข้าสู่สินทรัพย์ที่มีเสถียรภาพมากกว่า เช่น หุ้นกลุ่ม Defensive ในสหรัฐฯ (Healthcare, Utilities) หรือ ETF อย่าง $VOO, $IBB รวมถึงทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ($GLD)

• โอกาสใน Forex และ Commodities
  ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในยุโรป อาจกดดันราคาน้ำมันและพลังงานที่มีสัดส่วนส่งออกไปยังภูมิภาคนี้ นักลงทุนที่เทรด WTI หรือ Brent ควรติดตามอุปสงค์จากยุโรปอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกัน การอ่อนค่าของยูโรอาจทำให้ดอลลาร์แข็งค่า ซึ่งมีผลต่อการถือครองทองคำและคู่เงินหลัก

สรุปภาพรวมเศรษฐกิจเยอรมนี–ฝรั่งเศส และผลกระทบต่อตลาดการเงินโลก

เศรษฐกิจของเยอรมนีและฝรั่งเศสในปี 2025 กำลังเผชิญกับแรงกดดันรอบด้าน ทั้งจากภาวะถดถอยในภาคอุตสาหกรรม หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น ราคาพลังงานที่สูง และความไม่เสถียรทางการเมืองภายในประเทศ ซึ่งซ้ำเติมความเชื่อมั่นของนักลงทุนและส่งผลโดยตรงต่อการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น ค่าเงินยูโร และบรรยากาศการลงทุนโดยรวมในยุโรป

ดัชนี DAX และ CAC 40 ยังอยู่ภายใต้แรงขาย ขณะที่นักลงทุนจำนวนมากหันไปถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ ETF ตราสารหนี้ หรือกระจายการลงทุนไปยังหุ้น Defensive ในสหรัฐฯ ส่วนในฝั่งตลาด Forex ความผันผวนของคู่เงิน EUR/USD และ EUR/JPY เพิ่มโอกาสให้กับนักเทรดที่ติดตามข่าวเศรษฐกิจและถ้อยแถลงจาก ECB อย่างใกล้ชิด

การชะลอตัวของสองประเทศแกนกลางในยุโรปยังเสี่ยงลุกลามเป็นผลกระทบระดับโลก โดยเฉพาะต่อการค้าโลก อุตสาหกรรมพลังงาน และตลาดการเงิน ทำให้ปี 2025 กลายเป็นปีแห่งความท้าทายที่นักลงทุนต้องติดตามยุโรปให้ใกล้ชิดมากกว่าที่เคย

หากต้องการลงทุนในสถานการณ์เช่นนี้ นักลงทุนควรเน้นกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่น กระจายความเสี่ยง และใช้เครื่องมือการลงทุนอย่าง CFD, ETF และการเทรด Forex อย่างชาญฉลาด เพื่อปรับตัวทันต่อความผันผวนที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก

💡คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: เศรษฐกิจเยอรมนีและฝรั่งเศสชะลอตัว มีผลต่อการลงทุนอย่างไร?

A: ส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปเผชิญแรงขาย นักลงทุนลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นวัฏจักร และหันไปถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ, ETF, ตราสารหนี้ หรือหุ้น Defensive ในสหรัฐฯ เพื่อลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองในยุโรป

Q: ควรจับตาคู่เงินใดในช่วงที่ค่าเงินยูโรผันผวน?

A: คู่เงิน EUR/USD และ EUR/JPY เป็นคู่ที่มีความเคลื่อนไหวสูงในช่วงนี้ นักลงทุนสามารถใช้กลยุทธ์เทรดตามข่าวจาก ECB หรือใช้เทคนิคอลเพื่อเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวสั้น ๆ

Q: หากต้องการเริ่มต้นลงทุนหรือเทรดในภาวะตลาดผันผวน ควรใช้เครื่องมืออะไร?

A: นักลงทุนสามารถใช้เครื่องมืออย่าง CFD เพื่อเทรดทองคำ ดัชนี หรือค่าเงินได้อย่างยืดหยุ่น พร้อมบริหารความเสี่ยงผ่าน Stop Loss หรือ Hedging โดยแพลตฟอร์มอย่าง IUX รองรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพในการเทรดได้ครบในที่เดียว

หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลสำหรับการศึกษาในเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน