CFD เป็นตราสารที่มีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงในการสูญเสียเงินอย่างรวดเร็วเนื่องจากเลเวอเรจ 76% ของบัญชีนักลงทุนรายย่อยสูญเสียเงินเมื่อทำการซื้อขาย CFD กับผู้ให้บริการนี้ คุณควรพิจารณาว่าคุณเข้าใจวิธีการทำงานของ CFD และคุณสามารถรับความเสี่ยงสูงจากการสูญเสียเงินได้หรือไม่

พันธบัตรพิเศษจีน กำลังส่งสัญญาณลงทุนทั่วโลกอยู่หรือเปล่า?
พันธบัตรพิเศษจีน กำลังส่งสัญญาณลงทุนทั่วโลกอยู่หรือเปล่า?
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของหนึ่งในมหาอำนาจเศรษฐกิจโลกมักจะนำมาซึ่งคำถาม ความคาดหวัง และความท้าทายที่ไม่อาจมองข้ามได้ ล่าสุดในปี 2025 รัฐบาลจีนประกาศเดินหน้าออกพันธบัตรพิเศษระยะยาวมูลค่ากว่า 1.3 ล้านล้านหยวน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าปีก่อน โดยมีเป้าหมายเพื่อระดมทุนสนับสนุนโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีขั้นสูง และการเสริมทุนให้กับธนาคารรัฐวิสาหกิจ
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจในประเทศ แต่ยังสร้างแรงสั่นสะเทือนไปถึงตลาดการเงินโลก ตั้งแต่นักลงทุนในหุ้นจีน กองทุน ETF ที่อิงกับเศรษฐกิจเอเชีย ไปจนถึงเทรดเดอร์ในตลาด Forex และผู้ถือครองทองคำหรือคริปโตเคอร์เรนซี ทั้งหมดต่างต้องกลับมาประเมินกลยุทธ์รับมือกับทิศทางใหม่ที่จีนกำลังเดินหน้า
พันธบัตรพิเศษ นโยบายที่พลิกเกมสำหรับตลาดการเงิน
Photo by ADEK BERRY/ AFP
จีนออกพันธบัตรพิเศษวงเงินรวมกว่า 1.3 ล้านล้านหยวน โดยเฉพาะชุดพิเศษ 5 แสนล้านหยวนที่ปล่อยกู้ให้ธนาคารรัฐในอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 1.45% ตลอด 5 ปี ถือเป็นหมากการคลังเชิงรุกที่ไม่เพียงแค่กระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังสะท้อนความพยายามฟื้นความเชื่อมั่นในระบบการเงิน
สำหรับนักลงทุนระยะยาว นี่อาจเป็นสัญญาณบวกต่อหุ้นจีนในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานสะอาด และเทคโนโลยี ขณะที่นักเก็งกำไรระยะสั้นเริ่มหันมาใช้โอกาสจากความผันผวนผ่าน CFD และ ETF จีน เช่น ASHR, FXI หรือเทรดดัชนี HSI และ CSI300 ผ่าน Futures
ฝั่งตลาด Forex คู่เงินอย่าง USD/CNY และ AUD/USD เคลื่อนไหวแรงตามความคาดหวังต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ขณะที่บางส่วนเลือกถือทองคำหรือ Stablecoin เป็นที่พักเงินระยะสั้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนในภาคอสังหาฯ และอุปสงค์ในประเทศ
แน่นอนว่าการออกพันธบัตรรอบนี้จึงไม่ใช่เพียงเรื่องการคลัง แต่คือสัญญาณเชิงยุทธศาสตร์ที่นักลงทุนทั่วโลกไม่ควรมองข้าม
ผลกระทบต่อหุ้น, ค่าเงิน และทองคำ
การออกพันธบัตรพิเศษของจีนในปี 2025 สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อสินทรัพย์หลักในตลาดการเงินทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ค่าเงิน หรือทองคำ โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนที่ติดตามเศรษฐกิจจีนเป็นหลัก
ฝั่งตลาดหุ้นการทุ่มงบลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยี ทำให้หุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง พลังงานสะอาด และภาคขนส่งกลับมาเป็นจุดสนใจ ทั้งในตลาดจีนและประเทศคู่ค้าอย่างออสเตรเลียหรืออินโดนีเซีย นักลงทุนที่มองหาโอกาสในรอบฟื้นตัวของเอเชียจึงเริ่มหันกลับมาพิจารณา ETF หุ้นจีนมากขึ้น
ในตลาดค่าเงิน เทรดเดอร์จับตาคู่ USD/CNH และ AUD/USD อย่างใกล้ชิด เพราะความผันผวนของหยวนอาจเพิ่มขึ้นจากระดับหนี้สาธารณะที่ขยายตัว เทรดเดอร์สายระยะสั้นใช้จังหวะข่าวจากจีนเป็นโอกาสเก็งกำไรในช่วงตลาดไร้ทิศทาง
ส่วนทองคำ ยังคงเป็นที่พักเงินของนักลงทุนที่กังวลต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจโลก ราคาทอง (XAUUSD) มีแนวโน้มได้รับแรงหนุนหากตลาดหุ้นผันผวน หรือความเชื่อมั่นในค่าเงินลดลงในช่วงพันธบัตรเริ่มออกสู่ระบบ
กลยุทธ์การลงทุน-เทรดในช่วงพันธบัตรพิเศษ ใครได้เปรียบ ใครควรรอ?
มุมมองของนักลงทุนต่อพันธบัตรพิเศษชุดใหญ่นี้แบ่งออกเป็นสองกลุ่มชัดเจน กลุ่มแรกมองว่าการอัดฉีดเงินจำนวนมหาศาลคือโอกาสทองของตลาดหุ้นจีน โดยเฉพาะในหมวดที่รัฐให้การสนับสนุนโดยตรง เช่น เทคโนโลยีสะอาด โครงสร้างพื้นฐาน และ AI ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มหันมาพิจารณากองทุน ETF ที่มีการกระจายความเสี่ยงในหุ้นเอเชียมากขึ้น
กลุ่มที่สองเลือกที่จะรอดูมากกว่า พวกเขามองว่าการเร่งออกพันธบัตรสะท้อนถึงปัญหาทางการเงินระดับโครงสร้างที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ และอาจนำไปสู่ภาระหนี้ในอนาคต สำหรับเทรดเดอร์แล้ว สถานการณ์นี้คือโอกาสในการเทรดระยะสั้น เช่น การทำ arbitrage ระหว่างดัชนีหุ้นจีนกับ ETF ในตลาดสหรัฐฯ หรือการจับจังหวะความผันผวนของค่าเงินเพื่อทำกำไรในสภาวะไร้ทิศทาง
Johannes Eisele | AFP | Getty Images
จีนกับบทบาทสำคัญในการชี้ทิศการลงทุนในอนาคต
วลีที่ว่า “เมื่อจีนขยับ โลกจะรู้สึกได้” ไม่ได้เป็นเพียงคำกล่าวลอย ๆ หากแต่สะท้อนความจริงในโลกการลงทุนที่เห็นได้ชัดเจนขึ้นทุกปี
ในปี 2025 การออกพันธบัตรพิเศษวงเงินมหาศาลของจีน ไม่ได้เป็นเพียงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่คือสัญญาณเชิงนโยบายที่อาจกำหนดทิศทางการลงทุนระดับโลกในระยะข้างหน้า ทั้งในแง่ของหุ้น โครงสร้างพื้นฐาน พลังงานสะอาด ค่าเงิน และทองคำ
นักลงทุนที่เข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างนโยบายของจีนกับพอร์ตการลงทุนทั่วโลก จะสามารถวางแผนรับมือกับความผันผวนได้อย่างมีชั้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นการถือหุ้นกลุ่มที่ได้อานิสงส์ในระยะกลาง การเพิ่มสัดส่วนทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยง หรือการใช้กลยุทธ์เทรดสั้นผ่าน Forex และ ETF หุ้นจีน
ทุกการเคลื่อนไหวของจีนจึงอาจไม่ใช่แค่เรื่องของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่คือโอกาสใหม่สำหรับนักลงทุนที่มองการณ์ไกลและวางกลยุทธ์ไว้ล่วงหน้าอย่างรอบคอบ